ราคาทองคำ SPOT เช้านี้อยู่ที่ระดับ 2870 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) โดยความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนแรงซื้อทองคำ แม้ว่าเมื่อคืนมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี (ADP) สหรัฐอเมริกาที่ออกมาดี แต่ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Rade more >>>ราคาทองคำ SPOT เช้านี้อยู่ที่ระดับ 2870 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) โดยความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนแรงซื้อทองคำ แม้ว่าเมื่อคืนมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี (ADP) สหรัฐอเมริกาที่ออกมาดี แต่ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Rade more >>>บ่ายนี้ราคาทองคำ SPOT อยู่ที่ระดับ 2865 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวขึ้นทำ ATH อย่างต่อเนื่อง ได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ และ Bond Yield หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดคาดว่า FED อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม โดยตอนนี้ FedWatch Toll ให้น้ำหนัก 83.5% FED ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25% - 4.50% ในการประชุมในเดือนมีนาคม ในทางเทคนิค กราฟมีลักษณะ Sideway up เบื้องต้นดูในกรอบ 2855 - 2877 ตามแนว Fibonacci ระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจมีเป้าขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซน 2888 หรือ 2900 ได้ ส่วนค่าเงินบาทมีแนวโน้ม Sideway down (แข็งค่า) ตามค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ทั้งนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ กลยุทธ์ : ทยอยซื้อที่แนวรับโซน 2855 หากราคาสามารถยืนได้
Rade more >>>ราคาทองคำ SPOT เช้านี้อยู่ที่ระดับ 2845 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาทำ New High อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี โดยเมื่อวานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน หลังจากมีการเจรจาระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดและกระตุ้นความสนใจในการลงทุนในทองคำ
Rade more >>>บ่ายนี้ราคาทองคำ SPOT อยู่ที่ระดับ 2815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลงมาจากแรงขายทางเทคนิค หลังเมื่อคืนขึ้นไปทำ ATH ใหม่อีกครั้งที่ 2830 โดยได้รับแรงหนุนจาก ทรัมป์ เลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก เม็กซิโก - แคนาดา ออกไปอีก 30 วัน แลกกันการป้องกันลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่สหรัฐฯ นอกจากนี้ตลาดกำลังจับตามอง การเจรจราระหว่าง ทรัมป์ กับ สี จิ้งผิง เพื่อพยายามหาข้อตกลงที่อาจหลีกเลี่ยงสงครามการค้า ในทางเทคนิค กราฟมีลักษณะ Sideway up เบื้องต้นดูในกรอบ 2807 - 2830 ส่วนค่าเงินบาทในช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 34.00 แต่ยังไม่สามารถยืนได้ปรับตัว ทั้งนี้ติดตามตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่คืนนี้ กลยุทธ์ : ทยอยซื้อที่แนวรับโซน 2805 - 2810 หากราคาสามารถยืนได้
Rade more >>>ราคาทองคำ SPOT เช้านี้อยู่ที่ระดับ 2820 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเมื่อวานราคาร่วงลงไปแตะที่ระดับ 2770 ดอลลาร์/ออนซ์ แล้วมีการรีบาวด์กลับขึ้นมา แม้ว่าตัวเลขเศษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศมาเมื่อวานจะออกมาดี แต่ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับการขึ้นภาษีทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาเป็น 25% และจากจีนเป็น 10% ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและสถานการณ์เศรษฐกิจในสหรัฐฯ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีแรงซื้อ แต่ก็มีการเทขายทองคำจากนักลงทุนที่เก็งกำไร ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงในระยะสั้น ก่อนที่จะมีการฟื้นตัวอีกครั้ง
Rade more >>>บ่ายนี้ราคาทองคำ SPOT อยู่ที่ระดับ 2799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รีบาวน์กลับขึ้นมาจากตอนเช้าหลังลงทำ Low ไว้ที่ 2772 จากแรงขายทางเทคนิค หลังเกิด Bearish Divergence และปรับตัวขึ้นจากนโยบายขึ้นภาษี เม็กซิโก-แคนนาดา 25% และ จีน 10% ซึ่งเป็นนโยบายพลักดันเงินเฟ้อ และ สงครามการค้าในอนาคต ซึ่งเป็นผลดีต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในทางเทคนิค กราฟมีลักษณะ Sideway up ยก Low และ ทำ High ใหม่ เบื้องต้นดูในกรอบ 2790 - 2817 โดยแนว 2790 เป็น ATH เก่าก่อนที่จะ Breakout ได้ หากราคาสามารถยืนโซนนี้ได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ส่วนค่าเงินบาทเช้านี้ ปรับอ่อนค่าตามค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายของทรัมป์ ทั้งนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ กลยุทธ์ : ทยอยซื้อที่แนวรับโซน 2790 หากราคาสามารถยืนได้
Rade more >>>ราคาทองคำ SPOT เช้านี้อยู่ที่ระดับ 2780 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำปิดที่ 2,801.29 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ในวันที่ 31 มกราคม และทำสถิติสูงสุดระหว่างวันที่ 2,817.23 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ โดยราคาทองคำในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นถึง 7% ซึ่งเป็นการปิดที่ดีที่สุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกที่ 25% และจากจีนที่ 10% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการค้าและกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทอง ทั้งนี้ตลาดมีแนวโน้มที่จะหันไปถือทองคำมากขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและนโยบายภาษีศุลกากรของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น
Rade more >>>บ่ายนี้ราคาทองคำ SPOT อยู่ที่ระดับ 2792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวขึ้นไปทำ ATH ใหม่ที่ 2801 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก ทรัมป์ ยืนยันเก็บภาษีนำเข้า เม็กซิโก-แคนาดา 25% เริ่มวันที่ 1 ก.พ. นี้ และ กำลังพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน ส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในทางเทคนิคกราฟมีลักษณะ Sideway up สามารถ Breakout ATH เก่า ที่ 2790 และราคาสามารถยืนได้ ในระยะสั้นมองว่าหากทองคำพักตัวในกรอบ 2790 - 2800 ได้ อาจปรับตัวขึ้นไปทำ ATH ใหม่ได้ ส่วนค่าเงินบาทแนวโน้มแข็งค่าต่อ จาก Flow เงินที่ไหลเข้ามาในตลาดตราสารหนี้ และ ตราสารทุน โดยเมื่อวาน และ วันนี้ มีแรงขายพันธบัตร อาจทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าได้ในระยะสั้น ทั้งนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อในคืนนี้ กลยุทธ์ : ทยอยซื้อที่แนวรับโซน 2785 - 2790 หากราคาสามารถยืนได้
Rade more >>>ราคาทองคำ SPOT เช้านี้อยู่ที่ระดับ 2795 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็ฯการทำ New High อีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเตรียมเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา รวมถึงอาจขยายไปยังชิปคอมพิวเตอร์ ยา และเหล็ก เพื่อลดการนำเข้าและกระตุ้นการผลิตภายในประเทศ โดยมีปัจจัยหนุนราคาทองเพิ่มเติม ได้แก่ การอ่อนค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลง ทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้น ทั้งนี้นักลงทุนยังจับตาดัชนี PCE ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคาดว่าดัชนี PCE ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี และดัชนี PCE พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 2.8% ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต
Rade more >>>