5 ปัจจัย ต้องติดตาม ในการลงทุนทองคำ
1. ค่าเงินดอลล่าร์
ค่าเงิน(ดอลล่าร์สหรัฐ) - ที่ยกตัวอย่างค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐเพราะว่าเป็นเงินที่มีการใช้อย่างกว้างมากที่สุดในโลก เนื่องจาก สหรัฐเป็นประเทศที่มี ขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เงินดอลล่าร์สหรัฐมีอิทธิพลต่อการวัดมูลค่าของสินทรัพย์สูงที่สุดในโลก ดังนั้นเมื่อเงินค่าเงินดอลล่าร์ (หมายถึงตระกร้าเงินดอลล่าร์ Dollar Index ) มีการแข็งค่าสกุลเงิน และสินทรัพย์ต่างๆทั่วโลกจึงลดค่าลง ในทางกลับกันเมื่อค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า สินทรัพย์ต่างๆทั่วโลกจึงมีมูลค่าปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐ และทองคำก็เช่นกัน
2. อุปสงค์ อุปทาน ทองคำด้านอุตสาหกรรม
ช่วงเวลาที่ทำให้ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อราคาทองในทางบวกจะเป็นช่วงปลายปีซึ่งจะมีการเร่งกำลังการผลิตทั้งอุตสาหกรรมอิเลกโทรนิก และเครื่องประดับ
อันดับ 1: อุตสาหกรรมเครื่องประดับ 48.37%
อันดับ 2: INVESTMENT 29.2%
อันดับ 3: ธนาคารกลางแต่ละประเทศ 14.93%
อันดับ 4: อุตสาหกรรม เทคโนโลยี 7.5%
แหล่งที่มา: สถาบันเก็บข้อมูลทองคำ
3. การเติบโตทางเศษฐกิจ ของประเทศยักษ์ใหญ์ทางตะวันออก จีน อินเดีย และรัสเซีย
ความต้องการทองคำของประเทศตลาดเกิดใหม่คิดเป็น 70% ของทั่วโลก
ซึ่งประเทศจีน อินเดีย และรัสเซียเป็นสามประเทศขนาดใหญ่ที่เริ่มการปฏิรูป
เทคโนโลยี เศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจและความมั่งคั่ง และเป็น ผู้ซื้อทองเพื่อใช้เป็นทุนสำรองรายใหญ่
4. ประเพณีความเชื่อมีผลต่ออุปสงค์ทองคำอย่างมีนัยสำคัญ
ค่านิยมในโลกฝั่งเอเชีย ทองคำมีค่าในเชิงวัฒนธรรมประเพณี และความเชื่อ เช่น เทศกาลดิวารี ของอินเดียวันคล้ายวันปีใหม่ ซึ่งมีความเชื่อว่าการซื้อทองจะสร้างความร่ำรวย และเทศกาลตรุษจีนของคนจีนซึ่งถือว่าทองคำนั้นเป็นสิ่งมีค่า และสิ่งมงคลทำให้เกิดโชคลาภร่ำรวย ความต้องการซื้อทองคำจากประเพณีเหล่านี้จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย. เทศกาลดิวารี จนถึง ปลายเดือน ก.พ. เทศกาลตรุษจีนของทุกปี
5. ความเสี่ยงจากความตึงเครียดจากภาวะสงครามในตะวันออกกลาง สงครามการค้า และสงครามเย็นรอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน ได้สร้างความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก คาดว่านักลงทุนทั่วโลกจะเพิ่มความต้องการทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงและปกป้องพอร์ตจากความเสี่ยงจากตลาดหุ้น การเมือง เงินเฟ้อและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว